#ไลฟ์สไตล์

Golfdigg เพื่อนที่ดีกับสนามกอล์ฟ และนักกอล์ฟทุก ๆ คน

ธีรพัฒน์ บุปผาพิบูลย์…สัมภาษณ์

วันนี้ อ.ส.ท. มีโอกาสพูดคุยกับคุณแมค ธีระ ศิริเจริญ ceo&co-founder ผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการจองสนามกอล์ฟในประเทศไทย

Golfdigg คืออะไร
Golfdigg เป็นผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการจองสนามกอล์ฟในประเทศไทย ปัจจุบันนักกอล์ฟทั้งคนไทย, Expat และชาวต่างชาติจากทั่วโลกสามารถจองสนามกอล์ฟมากกว่า 180 สนาม ใน 40 จังหวัดทั่วประเทศไทย ได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง จองและชำระ พร้อมได้รับการยืนยันการจองเสร็จทั้งหมดภายใน 1 นาทีเท่านั้น

จุดเริ่มต้นของ Golfdigg
จุดเริ่มต้นของ Golfdigg เกิดจากคุณโอม ภูริชช์ อักษรทับ อีกหนึ่ง co-founder ของ Golfdigg ที่เป็นคนชอบตีกอล์ฟมาก และเห็นปัญหาในการจองสนามกอล์ฟ ที่จะสามารถจองได้เฉพาะในเวลาทำงานของพนักงานสนามกอล์ฟเท่านั้น หลัง 17.00 น. สนามปิด พนักงานกลับบ้าน จะไม่สามารถจองได้ แต่หลายๆ ครั้งเราก็อยากจองตอนหลังเลิกงาน
หรือปัญหาในเรื่องของราคา ที่หากเราไปสนามใหม่ ๆ ที่เรายังไม่รู้จัก เราก็จะไม่มีโปรโมชั่นดี ๆ ได้เลย ทำให้เราก็มักจะจองแต่สนามเดิม ๆ จึงมีแนวคิดที่แก้ปัญหาแพลตฟอร์มนี้ขึ้นมา ซึ่งเราก็เริ่มจากการพัฒนา application บน iPhone พร้อมกับ business model แบบ “Last minute deal” หรือ “จองวันนี้ ตีพรุ่งนี้” เอา timeslot ของสนามกอล์ฟของวันพรุ่งนี้ ที่ยังไม่ขายไม่ได้ มาลดราคาพิเศษมากๆ นักกอล์ฟต้องจองและชำระเงินก่อนเที่ยงคืนผ่าน golfdigg application เพื่อไปตีกอล์ฟในวันรุ่งขึ้น

 

เราทำ application ในเวอร์ชันแรกเสร็จภายใน 2 เดือน แต่เราใช้เวลา 3 เดือน กว่าจะมีสนามกอล์ฟแรกที่ยอมมาอยู่บน golfdigg คือ สนามกอล์ฟเดอะวินเทจ และหลังจากนั้นภายใน 7 วัน ก็มีลูกค้าแรกที่จองมา จำได้ว่าวันนั้นตื่นเต้นมาก วันรุ่งขึ้นทุกคนตื่นกันตั้งแต่ตี 5 เพื่อโทรแจ้งสนาม และรอจนกว่าลูกค้าจะถึงสนามและได้ออกรอบตามเวลาที่ได้จองมา สนามกอล์ฟก็ต้องได้รับเงินตรงเวลาทุกครั้งที่ขายได้
จนวันนี้ก็ได้เปิดให้บริการมามากกว่า 8 ปีแล้วครับ Golfdigg มีทั้ง application บน iPhone, Android, website รวมถึง line และ Call center หรือสามารถจองผ่าน agent ที่เป็นพันธมิตร ช่องทางมีความหลากหลายครอบคลุมมากขึ้น การจองล่วงหน้าก็สามารถจองได้นานสูงสุดถึง 3 เดือน

 

บริการของ Golfdigg มีความแตกต่างจากแฟลตฟอร์มในท้องตลาดอย่างไร
เราอยู่ในตลาดมา 8 ปี ในปีแรกเราเป็น application จองสนามกอล์ฟเจ้าแรก ที่นักกอล์ฟสามารถจอง ชำระเงิน และได้รับการยืนยันการจองผ่านทาง email แบบ real-time ทั้งยังเป็น business model แบบ last minute deal เป็นช่องว่างที่ช่วยสนามกอล์ฟ และไม่ได้ชนกับ traditional agent ที่มักจะขายล่วงหน้าเป็นเดือน พอต่อมาในแต่ละปีที่เราเติบโตขึ้นเน้นการพัฒนาในเรื่องของจำนวนสนามกอล์ฟให้เพิ่มมากขึ้น เวลาก็มีให้เลือกหลากหลายในแต่ละสนาม มีระบบ loyalty programe ที่เลือกว่า Golfdigg Family มีสนามปิดบางสนามที่สามารถจองได้เป็นต้น
ความแตกต่างที่สำคัญน่าจะเป็นเรื่องแนวคิดที่เราไม่คิดว่าเรากำลังแข่งขันกับ Golf Booking เจ้าอื่น ๆ เรากลับคิดว่าทุกคนกำลังมาช่วยกันขยายตลาด Online Booking ให้ใหญ่ขึ้น และมองว่าคู่แข่งสำคัญของ Golfdigg คือการเปลี่ยนพฤติกรรมนักกอล์ฟ ให้หันมาใช้ระบบการจองล่วงหน้าผ่านช่องทาง online มากกว่า

 

จำนวนสนามกอล์ฟที่เป็นเครือข่ายในปัจจุบัน มีกี่แห่ง
ในตอนนี้มีสนามกอล์ฟมากกว่า 180 สนาม กระจายอยู่ในใน 40 จังหวัดทั่วประเทศไทยที่เป็นเครือข่ายของ Golfdigg

 

การตอบรับของผู้ใช้งานในปัจจุบันเป็นอย่างไร
ปัจจุบันเรามีฐานนักกอล์ฟที่มี application รวมมากกว่า 140,000 คน มีนักกอล์ฟเข้ามาดู promotion ในแต่ละวันมากกว่า 2,000 คน ในช่วงก่อน Covid เรามีเคยยอดคนเข้าต่อวันในระดับ 7,000-8,000 คนต่อวัน และตอนนี้ประเทศได้เริ่มเปิดอีกครั้ง ชาวต่างชาติเริ่มกลับมามากขึ้น สถิติตยอดการจองเริ่ม ดีขึ้นอีกครั้ง และเราก็เริ่มกลับมาวางแผน focus ตลาดต่างประเทศมากขึ้น

 

ก้าวต่อไปของ Golfdigg
ในช่วง Covid เราก็ได้ทำงานกันอย่างหนักเพื่อพัฒนาทั้งระบบ cashless ภายในสนามกอล์ฟ ระบบ e-Coupon และ website ให้กับสนามกอล์ฟ ระบบ golf wholesaler สำหรับ traditional agent และ OTA รวมทั้งเรากำลังจะ launch website ใหม่ ที่พัฒนาเพื่อให้รองรับกับการ localisation สำหรับตลาดญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับทั้งสนามกอล์ฟ นักกอล์ฟ และ travel agent ต่าง ๆ ในการดึงนักกอล์ฟและแฟนกีฬากอล์ฟจากทั่วโลกเดินทางมาตีกอล์ฟหรือดูการแข่งขันกอล์ฟในเมืองไทย
ส่วนเป้าหมายระยะยาว เรายังมีเป้าหมายสำคัญเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรก คือ We make people enjoy more golf คือการทำให้ทุก ๆ คนสามารถเข้าถึงและสนุกกับกีฬากอล์ฟได้มากและง่ายยิ่งขึ้น ได้ตีกอล์ฟบ่อย ๆ ได้เดินทางไปลองสนามใหม่ ๆ ทั่วประเทศ หรือการนำเอา Technology ใหม่ ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมกอล์ฟ เช่น NFT เพื่อให้กอล์ฟเป็นกีฬาที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ และเชื่อว่าสักวันนึงจะเป็นอีกหนึ่ง Travel Tech Startup ที่สามารถขยายกิจการไปในระดับภูมิภาคเอเชียได้

Processed with VSCO with a6 preset
24/06/68 เวลา 02:18 น.