ททท. เปิดตัวโครงการ Amazing Thailand NFTs Season 2 (Amazing Expat NFTs)

วันที่ 3 เมษายน 2566 ณ ห้องโถงธนะรัชต์ อาคารการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. พร้อมด้วยนายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด และนางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ Amazing Thailand NFTs Season 2 (Amazing Expat NFTs) ต่อยอดแนวคิด From NFT to Trip เพื่อสร้างประสบการณ์เดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว เน้นกลุ่ม Expat ร่วมกิจกรรมสะสมผลงานศิลปะ NFT ตั้งแต่วันที่ 3-30 เมษายนนี้ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้โดยกดเช็คอินรับ NFT ในรัศมี 2 กิโลเมตรจากหมุดแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 20 แห่ง ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ รวม 24,000 ชิ้นงาน พร้อมส่วนลดพิเศษจากพันธมิตร มากกว่า 40 ราย สำหรับกลุ่ม Expat สามารถรับส่วนลดค่าเข้าชมวัดพระแก้วและวัดโพธิ์ พรีค่าเข้าชมวัดไตรมิตรฯ วัดอรุณฯ และวัดเบญจมบพิตร  กิจกรรมภายในงานสามารถ Check in รับภาพ NFT เพื่อแลกรับสิทธิประโยชน์ ไอศครีมจากร้าน Molly Ally ด้วย

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ในปีท่องเที่ยวไทย 2566 นี้ ททท. มุ่งส่งมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว (Meaningful Travel) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยจัดโครงการ Amazing Thailand NFTs Season 2 ต่อยอดนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เป็นเครื่องมือในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยแนวคิด From NFT to Trip ผนวกผลงานศิลปะ NFT เข้ากับแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ททท.จะมุ่งไปที่กลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย หรือกลุ่ม Expat ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพสูงในการใช้จ่ายเพื่อการเดินทางและการท่องเที่ยว ให้ร่วมออกเดินทางสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ทั่วประเทศไทย พร้อมร่วมกิจกรรมเก็บสะสมผลงานศิลปะ NFT เพื่อกระตุ้นการเดินทางพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวสำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้

สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยือนเพื่อรับผลงานศิลปะ NFT มีจำนวน 20 แห่ง ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ ได้แก่ 1. แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต 2. ย่านเมืองเก่า จังหวัดภูเก็ต 3. หาดไม้ขาว จังหวัดภูเก็ต 4. เขาตาปู จังหวัดพังงา 5. ประตูท่าแพ จังหวัดเชียงใหม่ 6. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ 7. วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย 8. อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย 9. วัดพระแก้ว กรุงเทพมหานคร 10. ตึกมหานคร กรุงเทพมหานคร 11. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กรุงเทพมหานคร 12. สถานีรถไฟหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 13. สะพานข้ามแม่น้ำแคว จังหวัดกาญจนบุรี 14. ตลาดน้ำอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม 15. ท่าเรือแหลมบาลีฮาย จังหวัดชลบุรี 16. ปราสาทสัจธรรม จังหวัดชลบุรี 17. ประภาคารแหลมงอบ จังหวัดตราด 18. โครงการโลกของช้าง จังหวัดสุรินทร์ 19. วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว จังหวัดอุบลราชธานี และ 20. วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ จังหวัดมุกดาหาร

นอกจากนี้ ยังสามารถกดเช็กอินเพื่อรับผลงานศิลปะ NFT ได้ที่สนามบิน 22 แห่งทั่วประเทศอีกด้วย โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้รับ NFT ของแหล่งท่องเที่ยวที่สุ่มขึ้นมาตามที่ตั้งของสนามบินในแต่ละภูมิภาค ทั้งนี้ ผลงานศิลปะ NFT สร้างสรรค์ โดยทีม Riety Studio ออกแบบรูปโพลารอยด์แหล่งท่องเที่ยว จำนวนจุดละ 1,200 ชิ้นงานที่มีความแตกต่างไม่ซ้ำแบบกันรวมจำนวน 24,000 ชิ้นงาน แบ่งเป็น 2 ระดับ ได้แก่ ระดับ Normal และ ระดับ Rare ซึ่งระดับ Rare จะมีความโดดเด่นในเรื่องของการประทับตราชื่อสถานที่และจังหวัด เพื่อสร้างความโดดเด่นและน่าจดจำบนชิ้นงาน NFT

นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมและเก็บสะสม NFT ได้ตั้งแต่วันที่ 3-30 เมษายน 2566 ผ่านแอปพลิเคชั่น YAKS (ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ IOS) โดยจะได้รับผลงานศิลปะ NFT ชิ้นแรกทันที เมื่อลงทะเบียนใช้งานเป็นครั้งแรก และชิ้นต่อไป เมื่อกดเช็กอินในรัศมี 2 กิโลเมตรจากหมุดของแหล่งท่องเที่ยวที่กำหนด โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมสะสมผลงานศิลปะ NFT จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษจากพันธมิตร เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ให้ดียิ่งขึ้น เช่น ส่วนลดพิเศษค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ค่าโรงแรม ที่พัก เป็นต้น

สำหรับ Expat จะได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ส่วนลด 50 เปอร์เซ็นต์ สำหรับค่าเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ฟรีค่าเข้าชมสำหรับวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนผลงานศิลปะ NFT ที่สะสมมากขึ้น จะทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ในระดับที่สูงขึ้น โดยสามารถใช้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการสะสมผลงานได้ตั้งแต่ วันที่ 3 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2566