#เที่ยวป่าเขา

สายหมอก ทิวเขา และเรื่องราวฮีลใจ ปลายทางแม่ฮ่องสอน

ชตาทิพย์ อำพันทอง เรื่อง ธีรพัฒน์ บุปผาพิบูลย์ ภาพ

ท่ามกลางความมืดมิดในช่วงเวลาย่ำรุ่ง บนเส้นทางที่คดโค้งไปมา เรากำลังเดินทางมุ่งหน้าไปรอชมความงดงามของทะเลหมอกในอำเภอปายตามคำบอกเล่าของใครบางคนที่ได้เคยกล่าวไว้
รถกำลังมุ่งหน้าฝ่าความมืดผ่านหมู่บ้านสันติชล พื้นที่อยู่อาศัยของชาวไทยเชื้อสายจีนยูนนานที่อพยพย้ายถิ่นมาอาศัยอยู่ในแถบนี้เมื่อครั้งอดีต พวกเขายังคงรักษาแต่งกาย ภาษา ขนมธรรมเนียมประเพณีเอาไว้อย่างเหนียวแน่น บ้านเรือนของข้างที่มีกลิ่นอายในแบบจีนทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ไม่นานก็ถึงจุดหมายปลายทางคือจุดชมวิวหยุนไหล เราพากันเดินขึ้นบันไปเพื่อไปรอชมทัศนียภาพสวย ๆ ในมุมสูง พื้นที่รายรอบบนลานกว้างด้านหนึ่งคือบ้านดินซึ่งเป็นทั้งร้านที่จำหน่ายของที่ระลึก อาหารว่างอย่างหมั่นโถว และน้ำชาร้อน ๆ ให้จิบท่ามกลางลมเย็น ใกล้ ๆ กันมีจุดคล้องกุญแจคู่รัก และป้ายร้อยที่บอกรักให้ได้แขวนเป็นที่ระลึก
ส่วนอีกด้านคือแลนด์มาร์กสำคัญตามคำบอกเล่า คือจุดชมวิวหยุนไหล คำว่า “หยุนไหล” เป็นภาษาจีนกลาง หมายถึง เมฆที่ไหลมารวมกัน ในยามนี้ท้องฟ้าเริ่มสว่าง จากระเบียงชมวิวที่นอกจากจะได้ถ่ายภาพสวย ๆ แล้ว ยังมองเห็นแสงไฟวิบวับจากบ้านเรือนในตัวอำเภอปายด้านล่าง โดยมีฉากหลังเป็นทะเลหมอกสีขาวลอยโอบทิวเขาน้อยใหญ่ นอกจากนี้ยังมีศาลาเล็ก ๆ ให้นั่งเล่นชมวิวยามเช้า

แต่ในเย็นย่ำในช่วงแดดร่ม ลมตก แนะนำให้ออกไปชมวิวเมืองปายในมุมสูงด้วยการพิชิตความสูงขึ้นบันไดกว่า 300 ขั้น เพื่อกราบสักการะขอพรพระพุทธโลกุตระมหามุนี พระพุทธรูปองค์ใหญ่สีขาวปางมารวิชัยที่หันหน้าสู่เมืองปาย ณ วัดพระธาตุแม่เย็น แม้จะอยากถอดใจระหว่างเดินขึ้นบันได หรือปวดขาเหนื่อยล้าเพียงใด แต่เมื่อเดินขึ้นไปถึงลานด้านบนแล้วกราบขอพรพระเรียบร้อย เพียงแค่หันหลังให้องค์พระก็จะได้เห็นวิวเมืองปายที่มองเห็นดอยจิกจ้องกลางแสงอ่อนตอนเย็น ถือได้ว่าคุ้มค่ามาก ด้านล่างมองเห็นพระอุโบสถหลังเล็กศิลปะแบบล้านนาและพม่า ด้านหลังพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระธาตุแม่เย็น ภายในเจดีย์ทรงระฆังแบบพม่า สีทองอร่าม ถือเป็นพระธาตุเก่าแก่ที่ชาวเมืองปายให้ความเคารพ หลังนั่งชิลชมวิวเมืองปายส่งท้ายแสงเย็นของวันจนเต็มอิ่มแล้วก็พากันเดินลง ค่ำวันนี้ไปเดินเล่นในตัวอำเภอปาย อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นถิ่นในแบบฉบับไทยใหญ่ ต่อด้วยเดินเล่นที่ถนนคนเดินปาย แหล่งท่องเที่ยวเลื่องชื่อที่ทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างรู้จัก สมัยก่อนมีเพียงพ่อค้าแม่ค้าคนพื้นถิ่นนำสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมาขายนักท่องเที่ยว เมื่อได้รับความนิยมจนถนนสายนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้น พ่อค้าแม่ค้าทั้งในพื้นที่และต่างถิ่นต่างพากันมาจับจองพื้นที่ขายของ ถนนสายนี้จึงมากมายไปด้วยร้านจำหน่ายของที่ระลึก ร้านอาหาร และร้านกาแฟ

หากมีเวลาไปเที่ยวปายลองแวะพักกายและใจกันที่ปาย เรโซแนนซ์ สตูดิโอ เพื่อปรับสมดุลให้กับชีวิต ในทิศทางของปายที่เติบโตขึ้น มีกิจกรรมโยคะกระจายอยู่ในปายมากกว่าเดิม ว่ากันว่าโยคะและอาหารวีแกนมาพร้อมกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา ในช่วงแรกนักท่องเที่ยวเรียนโยคะตามรีสอร์ต ต่อมาโยคะสตูดิโอในปายเกิดขึ้นหลายแห่ง แต่ละแห่งมีการสอนที่หลากหลายมากขึ้น โดยมีคาแรกเตอร์ต่างกันออกไป ย้อนกลับไป9 ปีก่อนหน้า เอลีชา จันต๊ะมณี หรือคุณน้ำอบ เธอลาจากการทำงานและใช้ชีวิตในเมืองกรุง กลับบ้านเกิดมายังอำเภอปาย ร่ำเรียนโยคะ พร้อมกับเริ่มบทบาทใหม่เป็นครูสอนโยคะซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางชีวิตที่ได้มองไว้
คุณน้ำอบเล่าว่า “จอย โยคะ สตูดิโอ ปาย (Joy Yoga Studio Pai) มีคลาสสอนหลากหลาย เช่น Aerial Yoga, Vinyasa Flow, Pilates Yoga, Hatha Yoga, Yoga for Beginners และ Private Yoga” ในครั้งนี้เราได้รู้จักกับโยคะสองแบบ คือ Vinyasa Flow Yoga ที่เน้นการเคลื่อนไหวร่างกายหลากหายท่วงท่า ประสานไปพร้อมกับการหายใจอย่างเป็นจังหวะ คล้ายกับการเต้นรำ ช่วยเสริมความยืดหยุ่นของร่างกาย สร้างสมาธิ ลดความเครียด และเพิ่มความแข็งแรง

ตื่นตาตื่นใจกับผืนผ้าหลากสีสัน ตรงหน้าคือเครื่องออกกำลังกายแบบ Aerial Yoga หรือการฝึกโยคะบนอากาศคล้ายกายกรรม ผ้าช่วยพยุงร่างกาย รองรับทุกการเคลื่อนไหวขณะลอยอยู่บนอากาศ เป็นการเปิดประสบการณ์การออกกำลังกายที่สนุกสนานและท้าทายอีกรูปแบบหนึ่ง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว
แวะสัมผัสโยคะแห่งความสุขไปพร้อมชมวิวทิวเขาสวย ๆ ผ่อนคลายด้วยดนตรีเบา ๆ กันได้ที่จอย โยคะ สตูดิโอ แห่งเมืองปาย
หากมีเวลาว่าง ไม่ไกลกันในพื้นที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ติดกับอำเภอปาย คือที่ตั้งของจุดชมวิวดอยกิ่วลมซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,615 เมตร สามารถแวะชมพระอาทิตย์ขึ้น เฝ้ามองทะเลหมอกคลอเคลียทิวเขาท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

แน่นอนว่ากระแสลมลมเย็นในเช้านี้ช่วยเติมความสดชื่นได้ไม่น้อย ภูเขาลูกแล้วลูกเล่าทอดตัวยาวสลับไปมา แซมด้วยหมอกสีขาวกระจ่างตาชวนมอง นอกจากวิวสวย ๆ แล้วที่นี่มีจุดจอดพักรถ และร้านกาแฟกิ่วลมคาเฟ่ ร้านค้าสวัสดิการของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายให้บริการ รวมถึงร้านจำหน่ายของฝากของที่ระลึกนานาชนิดของชาวบ้านให้เลือกสรร
ออกจากดอยกิ่วลมขับรถไปชมวิวพร้อมกินมื้อเช้ากันต่อที่บ้านจ่าโบ่ หมู่บ้านเล็ก ๆ กลางทิวเขาในอำเภอปางมะผ้าที่แสนจะเงียบสงบ ชื่อของบ้านจ่าโบ่มาจาก นายจ่าโบ่ ไพรเนติธรรม ผู้นำของหมู่บ้านที่เป็นชาวลาหู่ อพยพย้ายถิ่นหนีโรคระบาดมาตั้งรกรากอยู่อาศัยจวบจนปัจจุบัน เสน่ห์ของบ้านจ่าโบคือชาวบ้านที่นี่เขายังคงวิถีชีวิต วัฒนธรรม รวมถึงบ้านเรือนในรูปแบบดั้งเดิม เป็นเครื่องดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันเดินทางมาสัมผัส ใครอยากเรียนรู้วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่นี่แวะไปเที่ยวกันได้ สิ่งที่ได้รับคือนอกจากมิตรภาพของผู้คนในพื้นที่แล้ว ยังได้พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติไปพร้อมกับชมวิวสวย ๆ ยามค่ำคืนนอนชมดาว ในช่วงเช้ามีวิวสวยให้ดื่มด่ำ

อิ่มเอมกับท้องทุ่งนาเขียวขจีกันแล้ว ยามเช้าก่อนดวงอาทิตย์จะออกมาทายทัก ไปหยุดพักชมวิวกันที่ปางอุ๋งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ ลงแพลำน้อยล่องไปตามทะเลสาบ ชมแสงแรกของพระอาทิตย์ สัมผัสความงดงามของหมอกเช้าที่ลอยฟุ้งเหนือสายน้ำและทิวต้นสนสองใบที่รายล้อมรอบอ่างเก็บน้ำ ค่าบริการเพียงลำละ 150 บาท นั่งได้ 2-3 คน ในปีนี้ปางอุ๋งเปิดให้ท่องเที่ยวและพักแรมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2568 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2569 สามารถใช้บริการลานกางเต็นท์และบ้านพักอุทยานฯ จองที่พักและค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เว็บไซต์ www.dng.go.th ส่งท้ายวันกันที่บ้านรักไทย หมู่บ้านสไตล์จีนยูนนานริมทะเลสาบที่ฉากหลังงดงามด้วยทิวเขา ซึ่งในปีนี้ Forbes จัดอันดับหมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลก โดยบ้านรักไทยครองอันดับที่ 34 จาก 50 หมู่บ้านที่สวยที่สุดในโลก แวะไปกินอาหารและจิบชา ในแบบจีนยูนนาน ล่องเรือโคมแดงรับลมหนาว สัมผัสวัฒนธรรมจีนยูนนานกันได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์

ท่ามกลางความเขียวขจีที่รายล้อมด้วยทิวเขา ผืนป่า สายน้ำ และพืชพรรณนานาชนิด ผู้คนที่นี่เกิด เติบโต อยู่อาศัยสืบต่อจากบรรพบุรุษชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ ที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับสายน้ำ และผืนป่า ทำมาหากินพร้อมกับร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ให้ดำรงคงอยู่ตลอดไป หลากหลายแห่งที่เราได้ไปมักจะพบกับคนรุ่นใหม่ที่เดินทางกลับบ้านไปพัฒนาถิ่นกำเนิดของตน ด้วยการต่อยอดสิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ให้เจริญงอกงามขึ้น บ้านพอนอคี ตำบลห้วยโป่ง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน คือหนึ่งในหมู่บ้านที่คนรุ่นใหม่เดินทางกลับมา นอกจากจะได้ดูแลคนในครอบครัวแล้ว ยังนำแนวคิดใหม่ ๆ เข้ามาปรับเปลี่ยนชุมชนของตนเป็นแหล่งท่องเที่ยว เรานั่งมองนาขั้นบันไดสีเขียวสดจากบ้านพัก ที่คนรุ่นใหม่หยิบเอาวิถีชุมชนดั้งเดิมมาสร้างสรรค์เป็นที่พักริมนาให้ผู้สนใจได้เข้ามาสัมผัสกันแบบใกล้ชิด นานอนโฮมสเตย์คือหนึ่งในที่พักกลางธรรมชาติที่สร้างสรรค์โดยคุณรุ่นใหม่อย่างคุณลี-ชาลี จิตต์นราเวช เจ้าของที่พักที่สะดวกสบายด้วยน้ำท่า อาหาร ไฟฟ้า และสัญญาณไวไฟ เพียงจ่ายค่าที่พักพร้อมอาหารเช้าคนละ 400 บาท ก็ได้พักผ่อนพร้อมชมความงดงามของทุ่งนาและทิวเขา นอนฟังเสียงธรรมชาติรอบภายภาในกระท่อมปลายนาทรงเอเฟรม ซึ่งใช้วัสดุธรรมชาติอย่างใบตองก๊อ พืชที่มีมากมายในหมู่บ้านมาทำหลังคา หากมีโอกาสแวะไปเติมพลังกายพลังใจ สัมผัสความสงบงาม สูดอากาศเย็นสบายท่ามกลางธรรมชาติ นอนโฮมสเตย์ชมวิวสวย เลือกซื้อสินค้าชุมชน อย่างชุดพื้นเมืองกะเหรี่ยง ข้าวบือโป่ะโล่ะ กาแฟอาราบิกา และหลากหลายพืชพรรณกันได้ที่บ้านพอนอคี

ปลายฝนต้นหนาวนี้ หากมีโอกาสไปเที่ยวแม่ฮ่องสอนต้องไม่พลาดชมสีสันเหลืองอร่ามงามตาของดอกบัวตองตัดกับสีของท้องฟ้า ณ ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ที่พากันเบ่งบานออกมาอวดโฉม เติมชีวิตชีวาให้กับพื้นที่บนทิวเขาในแถบนี้เพียงปีละครั้ง สำหรับในปีนี้ดอยแม่อูคอเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวชมดอกบัวตองตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนเป็นต้นไป โดยมีระยะเวลาให้ชมราว 1 เดือนเท่านั้น เตรียมกล้องถ่ายภาพและชุดสวย ๆ กันให้พร้อมก่อนจะไปเยือนดอยแม่อูคอเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่มีทั้งทิวเขาและดอกไม้สวยงามที่สุด ทิวเขาหลายลูกถูกห่มคลุมด้วยดอกบัวตองที่กันบานสะพรั่งเต็มที่ มองไปทางไหนก็แลดูสดใสไปหมดแม่ฮ่องสอนยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลากสไตล์ให้เลือกสรรอยู่อีกหลายอำเภอ ปลายฝนต้นหนาวนี้ออกเดินทางไปกิน เที่ยว สนุกกับหลากกิจกรรม พักผ่อนฮีลใจไปพร้อมชมวิวทิวเขาสวยกัน

 

 

 

 

10/11/68 เวลา 08:43 น.